อย่างที่เรารู้กันว่า “น้ำ” คือสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย
และเป็นส่วนประกอบหลักที่มีอยู่ในทุกๆอวัยวะ โดยมีปริมาณมากถึง 75%ของร่างกายทั้งหมด อีกทั้งยังมีหน้าที่อื่นๆ เช่น ควบคุมอุณหภูมิภายในร่างกาย หล่อลื่นข้อต่อและเนื้อเยื่อและเป็นส่วนประกอบ 92% ของระบบเลือด เป็นต้น แต่ใครจะรู้ว่า น้ำเอง ก็เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต่อการลดน้ำหนักมากเช่นเดียวกัน เนื่องจากสาเหตุดังนี้
ต้องดื่มน้ำเพื่อให้ไตทำงาน เพราะไตนั้นจะไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหากเราดื่มน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลให้ตับทำงานหนักมากขึ้นกว่าปกติ ส่งผลให้หน้าที่หลักของตับในการเร่งการเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงานนั้นลดลง ร่างกายจึงเผาผลาญไขมันได้น้อยลง และสะสมไขมันมากขึ้น อีกทั้งยังเสี่ยงต่อโรคไตและโรคตับอีกด้วย
ช่วยให้ผิวหนังไม่เหี่ยวย่นหลังการลดน้ำหนัก อีกทั้งน้ำยังช่วยให้กล้ามเนื้อเรามีความชุ่มชื้น เซลล์ขนาดเล็กลอยตัวอยู่ได้ ผิวหนังเปล่งปลั่งสดใส
น้ำช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ซึ่งอาการท้องผูกจะส่งผลให้เราลดน้ำหนักได้ช้าลง (อ่านเพิ่มเติมในส่วนของใยอาหาร)
น้ำช่วยลดความอยากอาหารได้ เพราะในเวลาที่ร่างกายต้องการน้ำเพิ่มร่างกายจะเรียกร้องด้วยอาการหิว คนที่ดื่มน้ำไม่พอจึงมักจะหิวบ่อย ดังนั้น หากเรารู้สึกหิวให้ลองดื่มน้ำแล้วเราจะพบว่าเรารู้สึกดีขึ้น นั่นแปลว่าร่างกายต้องการน้ำไม่ใช่อาหาร
น้ำน้อยลดได้น้อย เนื่องจากร่างกายที่การรักษาสมดุลของของเหลว ที่เรียกว่า”Breakthrough Point” โดยเมื่อเราลดน้ำหนัก ไขมันลดลง ร่างกายจะต้องการน้ำมากขึ้นเพื่อรักษาสมดุลนี้ หากเราดื่มน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ขาดสมดุลนี้ ส่งผลให้เราลดน้ำหนักได้น้อยลง
ยิ่งดื่มน้ำน้อยยิ่งบวมน้ำ เพราะเมื่อร่างกายได้รับน้ำน้อยมันจะปับตัวด้วยการรักษาน้ำไว้ทุกหยดไว้ในที่ว่างพิเศษระหว่างเซลล์ ทำให้มีอาการบวมน้ำ และดูอ้วนขึ้น
วิธีการดื่มน้ำให้เพียงพอนั้น ปกติแล้วผู้ที่มีน้ำหนักตัวปานกลางจะต้องการน้ำประมาณ 2 ลิตรต่อวัน แต่สำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักนั้นจะยิ่งต้องการน้ำมากขึ้นกว่าคนปกติ โดยวิธีที่เหมาะสมคือตั้งเป้าว่าต้องดื่มน้ำ 2 ลิตรต่อวัน และคอยสังเกตเพิ่มว่า มีอาการปากแห้ง คอแห้งไหม ปัสสาวะสีเข้มไหม ถ้าใช่ แสดงว่าร่างกายต้องการน้ำมากขึ้นอีก เพราะไม่เพียงพอ แต่หากเราดื่มน้ำปริมาณมากๆในครั้งเดียว ร่างกายจะขับส่วนเกินออกจนไม่พอใช้ทั้งวัน ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ ควรดื่มน้ำให้กระจายสม่ำเสมอทั้งวัน
ส่วน “เส้นใยอาหาร(ไฟเบอร์)” นั้นก็มีผลต่อการลดน้ำหนักอย่างมากเช่นกัน โดยเราสามารถหาได้จากอาหารประเภทธัญพืช ผักและผลไม้ สังเกตได้จากอาหารที่เราจะเจอกากเป็นเส้นเวลาเคี้ยว เช่น ก้านผัก หรือกากผลไม้ที่ได้จากการคั้น
ใยอาหารเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ให้พลังงานและร่างกายไม่สามารถย่อยได้ โดยแบ่งเป็นสองประเภท คือประเภทที่ละลายน้ำได้กับไม่ละลายน้ำ โดยประเภทที่ละลายน้ำได้นั้นจะดูดซับอาหารที่ละลายน้ำได้เช่น น้ำตาลในอาหาร ส่งผลให้เราลดน้ำหนักง่ายขึ้น ส่วนใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ เมื่อทานเข้าไปจะดูดซับน้ำและพองตัว ส่งผลให้พื้นที่ในกระเพาะอาหารน้อยลง การลดปริมาณอาหารเป็นเรื่องง่ายขึ้น อีกทั้งยังเกาะติดและห่อหุ้มไขมัน ทำให้ร่างกายดูดซึมไขมันได้ลดลง ช่วยกวาดล้างสิ่งตกค้าง และสารพิษในลำไส้ ลำไส้ดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น ทำให้เราอิ่มเร็ว ระบบขับถ่ายดีขึ้น ซึ่งหากระบบขับถ่ายมีปัญหา เกิดอุจจาระติดค้างในลำไส้หลายวัน ร่างกายจะไปดูดซึมน้ำจากอุจจาระมาใช้ ทำให้เกิดอาการที่ทางแพทย์ เรียกว่า “ขี้ขึ้นสมอง”
