อาหารเสริมลดน้ำหนัก

//อาหารเสริมลดน้ำหนัก

อาหารเสริมลดน้ำหนัก

ในปัจจุบันมีอาหารเสริมออกมามากมายในรูปแบบที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ยาระบาย ช่วยเผาผลาญไขมัน กระชับสัดส่วน ฯลฯ มีมากจนจำไม่ไหวว่ามียี่ห้ออะไรบ้างอาหารเสริมมักจะใช้ดารานางแบบมาเป็น Presenter ซึ่งเรื่องแต่ก็คือ เราต่างก็รู้ว่าดารานางแบบเหล่านี้ หุ่นแบบนี้อยู่แล้วไม่ได้หุ่นดีเพราะอาหารเสริมนั้น แต่คนส่วนหนึ่ง ก็หลงเชื่อ ไปซื้อทานโดยคาดหวังว่าจะมีรูปร่างแบบนั้น ทุกวันนี้เราถูกการโฆษณากระตุ้นให้หลงเชื่อว่า อาหารเสริมจะช่วยให้เราผอมได้ จนตัดสินใจซื้ออาหารเสริมมาทาน โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราผอมได้อย่างไร

ความจริงที่เราต้องรู้ก็คือไม่ว่าที่ผ่านมาจะมีอาหารเสริมออกมากี่ยี่ห้อกี่แบบ และในอนาคตจะมีอาหารเสริมออกมากี่ยี่ห้อกี่แบบ ไม่ว่าในอนาคตผู้ขายจะพยามบอกว่าได้พัฒนาสูตรไปไกลแค่ไหนก็ตามสุดท้ายแล้วอาหารเสริมเหล่านี้ก็เหมือนเหล้าเก่า

ในขวดใหม่ ที่จะมีคุณสมบัติคล้ายๆเดิม เพียงแต่เปลี่ยนรูปลักษณ์เปลี่ยนชื่อส่วนผสมให้ดูเหมือนคิดค้นสิ่งใหม่ๆได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักอาหารเสริมแต่ละกลุ่ม เพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ

อาหารเสริมกลุ่มนี้มักจะมาในรูปแบบของชาที่ช่วยระบาย มะขามแขก วุ้น โยเกิร์ต หรืออาหารที่มีสรรพคุณช่วยให้การขับถ่ายของเราดีขึ้น

วิเคราะห์-วิจารณ์

คนที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย (ไม่ได้ถ่ายทุกวัน) จะมีของเสียที่ตกค้างในลำไส้มาก ทำให้หน้าท้องป่องออกมา เมื่อทานสิ่งที่ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายได้ดีขึ้น ร่างกายก็จะขับของเสียที่ตกค้างหลายวันออกไป ทำให้หน้าท้องยุบลง คนจึงเข้าใจว่าน้ำหนักหรือสัดส่วนลดลง ทั้งๆที่ความจริงแล้วเป็นของเสียในร่างกาย (อุจจาระ) ลดลงต่างหาก

อาหารเสริมกลุ่มนี้จะช่วยให้เราขับถ่ายได้ดีขึ้นเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ไขมันในร่างกายของเราลดลงเลยแม้แต่กรัมเดียว จึงไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักให้กับเราได้


ฟันธง

ไม่ช่วยลดน้ำหนักเลย แทนที่จะเอาเงินไปซื้ออาหารเสริมประเภทนี้ เอาเงินไปซื้อผักผลไม้ทานและดื่มน้ำให้มากขึ้น ก็จะได้ผลเหมือนกัน (ขับถ่ายคล่องขึ้น แต่ไม่ผอมลง)

ลักษณะของอาหารเสริมแบบนี้อาจจะออกมาในรูปแบบเป็นเม็ดเป็นวุ้น หรือเป็นผงแล้วผสมกับเครื่องดื่ม เช่น เม็ดแมงลัก บุกผง (ขอให้เราสังเกตจากฉลากว่าเป็นใยอาหารหรือเปล่า)

สรรพคุณ

เนื่องจากร่างกายไม่สามารถย่อยใยอาหาร การทานใยอาหารเข้าไปจะช่วยทำให้พื้นที่ในกระเพาะเหลือน้อยลง เราจะแน่นท้องเร็วขึ้นเราจึงทานอาหารได้น้อยลง เมื่อเราทานอาหารได้น้อยลงเราก็จะได้รับพลังงานจากอาหารน้อยลง ก็จะทำให้เราสามารถ ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น

วิเคราะห์ – วิจารณ์

การทานใยอาหารเพื่อช่วยลดน้ำหนักที่นั้น  เหมาะสำหรับคนที่มีความตั้งใจ ในการลดน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก เพราะใยอาหารจะช่วยให้เราแน่นท้องเร็วขึ้น แต่ความหิวจะยังคงมีอยู่ เพราะร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ จึงต้องใช้ความพยายามและความอดทนต่อความหิวที่เกิดขึ้น ส่วนคนที่มีความตั้งใจลดน้ำหนักไม่มาก หรือไม่สามารถบังคับตัวเองได้ การทาน

ใยอาหารอาจจะไม่ช่วยอะไรเลย เพราะใยอาหารไม่ได้ให้สารอาหารอะไรเลย แม้ว่าเราแน่นท้องเร็วขึ้นก็จริง แต่เราจะยังไม่อิ่ม (ยังรู้สึกหิวอยู่) เราก็จะทานต่อไปแม้ว่าจะรู้สึกแน่นท้อง จึงกลายเป็นว่าเราก็ยังทานเท่าเดิม น้ำหนักของเราก็จะไม่เปลี่ยนแปลง

ฟันธง

ใยอาหารเป็นเพียงตัวช่วยให้เราแน่นท้องเร็วขึ้นเล็กน้อย แต่สุดท้ายแล้วน้ำหนักตัวของเราจะลดลงได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราได้พลังงานจากอาหารที่ทานน้อยกว่าพลังงานที่เราใช้หรือไม่ สำหรับคนที่มีความตั้งใจสูงมากๆ ใยอาหารอาจจะช่วยให้มีโอกาสลดน้ำหนักลงได้ 20-30% (แต่โยโย่หรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าอาหารที่ทานสอดคล้องกับหลักกา ทางการแพทย์หรือไม่)

ส่วนคนที่มีความตั้งใจลดน้ำหนักไม่มาก การทานใยอาหารแทบจะไม่ช่วยอะไรเลยโอกาส ที่จะทานอาหารให้ได้พลังงานน้อยกว่าพลังงานที่ใช้จึงมีน้อยมาก โอกาสสำเร็จน่าจะน้อยกว่า 10%

ซึ่งที่ทานกันเป็นประจำจะเป็นเม็ดแคปซูลสีฟ้า โดยไขมันส่วนที่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้ก็จะถูกขับออกมาพร้อมอุจจาระ เรื่องจากคาร์โบไฮเดรตที่เราทานเข้าไปนั้น จะถูกร่างกายย่อยสลายจนกลายเป็นน้ำตาล เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานให้กับร่างกายซึ่งหากมีน้ำตาลเหลือ (ใช้ไม่หมด) ร่างกายก็จะเปลี่ยนน้ำตาลให้กลายเป็นไขมันแล้วเก็บสะสมเอาไว้

วิเคราะห์-วิจารณ์

ปัจจัยที่จะทำให้การลดน้ำหนักด้วยอาหารเสริมประเภทนี้สำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าอาหารเสริมที่เราทานนั้นช่วยให้เราได้พลังงานจากอาหารน้อยลงแค่ไหนเช่นหากอาหารเสริมที่เราทานสามารถดักจับไขมันได้ 10 กรัมก็แปลว่าอาหารเสริมนั้นช่วยให้เราได้พลังงานจากอาหารน้อยลง 90 กิโลแคลอรี่ต่อวัน (ไขมัน 1 กรัมให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรี่)หากเราทานอาหารเท่าเดิมแล้วทานอาหารเสริมประเภทนี้ เราจะต้องใช้เวลานานถึง 85.6 วันจึงจะน้ำหนักลดลงหนึ่งกิโลกรัม (7,700 กิโลแคลอรีจะลดลง 1 กิโลกรัม)

ฟันธง

ในความเป็นจริงแล้วอาหารเสริมไม่สามารถที่จะดักจับไขมันหรือคาร์โบไฮเดรตในอาหารที่เราทานได้มากอย่างที่เราคาดหวังว่า รวมถึงไม่มีผลงานวิจัยที่ระบุหรือเขียนข้างฉลาก ว่าสามารถดัดได้มากน้อยเท่าไหร่ (ไม่ได้ช่วยดักจับได้มากอย่างที่เราคาดหวังแน่นอน)

จากข้อมูลจะเห็นว่า อาหารเสริมประเภทนี้ ช่วยให้เราได้รับพลังงานน้อยลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงแทบไม่ช่วยอะไรเราเลย หากใครที่รถน้ำหนักลงได้ ก็จะลดได้เพราะการควบคุมด้วยตัวเองไม่ได้เกิดจากอาหารเสริม

ตรงกันข้าม คนที่ทานอาจจะชะล่าใจเพราะเข้าใจผิดว่าอาหารเสริมสามารถดักจับได้ทั้งหมด จึงทานอาหารแบบไม่บันยะบันยังจนได้พลังงานจากอาหารที่ทานมากกว่าพลังงานที่ใช้ แทนที่น้ำหนักจะลดอาจจะเพิ่มได้

อาหารเสริมประเภทนี้น่าจะมีมากที่สุดในท้องตลาด เรามักจะได้เห็นลักษณะการโฆษณาสรรพคุณว่า ช่วยกระชับสัดส่วน ช่วยลดไขมันส่วนเกิน ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ช่วยเร่งการเผาผลาญ ช่วยยับยั้งการสะสมไขมัน ช่วยลดมวลไขมัน ช่วยเพิ่มความร้อน เป็นต้น

อาหารเสริมประเภทนี้มักจะมีส่วนผสมของ CLA (กรดไขมัน) LCH (คอลลาเจนชนิดหนึ่ง) พริกไทยดำ ชาเขียว กรดผลไม้ โคคิวเทน ถั่วขาว แอลไลซีน แอลคาร์รีทีน แอลกลูตามีน เป็นต้น

สรรพคุณ

อาหารเสริมประเภทนี้อาจจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น โดยอาจจะทำให้ร่างกายมีอัตราการเผาผลาญมากขึ้น หรือทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อร่างกายมีอัตราการเผาผลาญที่มากขึ้นก็จะทำให้ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้น ทำให้มีโอกาสที่จะดึงไขมันที่สะสมเอาไว้มาใช้ทำให้ไขมันลดลง น้ำหนักลดลงสัดส่วนลดลง (กระชับขึ้น)

วิเคราะห์-วิจารณ์

ปัจจัยที่จะทำให้การลดน้ำหนักด้วยอาหารเสริมประเภทนี้สำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าอาหารเสริมที่เราทานช่วยเผาผลาญไขมันจริงๆได้เท่าไหร่  เช่น หากปกติเราใช้พลังงานวันละ 2000 กิโลแคลอรี หากอาหารเสริมช่วยให้ร่างกายเราเผาผลาญเพิ่มขึ้น 5% เราก็จะใช้พลังงานเพิ่มขึ้นประมาณ 100 กิโลแคลอรีต่อวัน หากเราทานอาหารเท่าเดิมแล้วทานอาหารเสริมประเภทนี้ เราจะใช้เวลาถึง 77 วันจึงจะ ลดน้ำหนักลงได้ 1 กิโลกรัม

ฟันธง

คงจะเหมือนกับอาหารเสริมที่ช่วยดักจับไขมัน คาร์โบไฮเดรต ที่ผู้จำหน่ายไม่บอกให้ชัดเจนว่าสามารถเผาผลาญไขมันในปริมาณมากน้อยแค่ไหน เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะส่วนใหญ่แล้วไม่ได้ช่วยเผาผ่านไขมันได้มากอย่างที่เราคาดหวังนั่นเอง

หมายถึงอาหารเสริมประเภทเม็ดเดียวหรือซองเดียวแล้วให้ผลครอบจักรวาล ทั้งดักจับไขมันจับคาร์โบไฮเดรต ทั้งช่วยกระชับสัดส่วน ทางช่วยเผาผลาญไขมัน ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันมักจะทำออกมาในรูปแบบกาแฟ

วิเคราะห์-วิจารณ์

การที่อาหารเสริมเม็ดเดียวหรือซองเดียว สามารถให้สรรพคุณที่หลากหลายนั้นก็จะช่วยเราหลายเรื่องในการทานเพียงครั้งเดียว แต่เราก็ต้องมองบนพื้นฐานของความเป็นจริงที่ว่าเม็ดเดี๋ยวให้สรรพคุณอย่างเดียวก็แปลว่าใน 100 กรัมจะทำหน้าที่อย่างเดียวแต่หากเม็ดเดียวช่วยหลายอย่างก็แปลว่าใน 100 กรัมก็ต้องแบ่งออกเป็น 20 กรัมทำหน้าที่อย่างหนึ่ง อีก 20 กรัมทำหน้าที่อย่างอื่น

แปลว่าประสิทธิภาพของแต่ละอย่างก็จะลดลง เมื่อเทียบกับการทานหนึ่งเม็ดแล้วช่วยด้านเดียว อาหารเสริมแบบครอบจักรวาลอาจจะคล้ายกับเป็ด ที่ว่ายน้ำก็ได้ บินก็ได้ ขันก็ได้แต่ก็ว่ายน้ำสู้ปลาไม่ได้ บินสู้นกไม่ได้ขันสู้ไก่ไม่ได้ ฉะนั้นหากอาหารเสริม ดักไขมัน 1 เม็ดสามารถดักไขมันได้ 10 กรัมแบบครอบจักรวาลก็อาจจะดักได้ 3 กรัมหากแบบปกติ 1 เม็ดเร่งการเผาผ่านได้ 5% แบบครอบจักรวาลก็อาจจะเร่งการเผาผลาญได้ 2% เป็นต้น

ฟันธง

คงจะเหมือนกับอาหารเสริมแบบ1 เม็ดให้ผล 1 อย่างที่ผู้จำหน่ายไม่บอกให้ชัดเจนว่าสามารถช่วยแต่ละอย่างได้ปริมาณมากน้อยแค่ไหน

จากข้อมูลจะเห็นว่าอาหารเสริมที่ครอบจักรวาลช่วยเราได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นหากใครที่ลดน้ำหนักลงได้ก็จะลดได้เพราะการควบคุมด้วยตนเองไม่ได้เกิดจากอาหารเสริม

“เสียเงินเสียเวลาเปล่า”

จากข้อมูลทั้งหมดคงทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าเราควรเสียเงินซื้ออาหารเสริมมาทานหรือไม่แม้ว่าราคาอาจจะไม่แพงมากแต่หากมันแทบไม่ช่วยอะไรเราเลยไม่ว่าราคาถูกแค่ไหนก็ถือว่าไม่คุ้มทั้งสิ้น

ขออนุญาตพูดตามตรงว่า หากอาหารเสริมที่เราทานวันละไม่กี่เม็ด ในราคาหลักร้อยหรือหลักพันต้นๆ สามารถช่วยให้เราลดน้ำหนักได้จริง ป่านนี้คงจะผอมกันไปทั้งโลกแล้ว เพราะอาหารเสริมเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ง่ายและทานง่าย

ถ้าเราอยากผอมจริงๆเราคงต้องยอมรับความจริงดังกล่าวแล้วเลิกหวังลมๆแล้งๆว่าจะลดน้ำหนักด้วยวิธีที่ถูก ง่าย และดี (เพราะมันไม่มี)

2018-08-17T05:18:09+00:00